เปิดภาพแรก ‘จาตุรงค์ มกจ๊ก’ หลังศัลยกรรมเกาหลี หล่อเหมือนลดอายุ

เปิดภาพแรก ‘จาตุรงค์ มกจ๊ก’ หลังศัลยกรรมเกาหลี หล่อเหมือนลดอายุ

เมื่อช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ทางด้าน “ใบเฟิร์น-พัสกร พลบูรณ์” ลูกสาวตลกเบอร์ต้นของประเทศ “จาตุรงค์ พลบูรณ์” หรือ “จาตุรงค์ มกจ๊ก” ก็ได้พากันเดินทางไปเยือนแดนกิมจิ เพื่อเข้ารับการศัลยกรรมคอให้กลับมาเต่งตึงเหมือนคนวัยหนุ่มอีกครั้ง โดยทางจาตุรงค์ได้โพสต์ภาพใบหน้าของตนเองที่ผ่านการทำศัลยกรรมคอมาแล้วลงในอินสตาแกรม @jaturong_p พร้อมด้วยแคปชั่นว่า “พวกตลก ไม่สามารถอำมุกลุงคอเหี่ยว.ได้อีกแล้ว หน้าเห็นใจพวกมันเน๊อ.. #คอตึงโพธาราม อีก2วันกลับ.ค่อยโชว์คอใหม่..เต็มๆ”

หลังจากนั้นในวันที่ 2 มกราคม 2566 

จาตุรงค์ก็ได้โพสต์รูปเผยให้เห็นแผลหลังใบหูที่คุณหมอเย็บให้แบบเนียนกริบ ดูแทบไม่ออกเลยว่าทำศัลยกรรมมา ความว่า “อาทิตย์ผ่าน ตัดไหมแล้ว แผลสวยมาก แทบมองไม่เห็นรอย.. #หมอเก่ง #คอตึงโพธาราม”

กระทั่งล่าสุดวันนี้ 13 มกราคม 2566 จาตุรงค์ก็ได้โพสต์ภาพใบหน้าของตัวเองแบบเต็ม ๆ เป็นครั้งแรก โชว์ให้ดูความเต่งตึงของคอที่ผ่านมีดหมอจากประเทศเกาหลีใต้มาแล้วเป็นเวลาเกือบ 3 สัปดาห์ พร้อมด้วยแคปชั่นว่า “คอไม่เหี่ยวแล้ว แผลข้างหูก็ดูไม่ออก เนียนกริบ.. #คอตึงโพธาราม”

ทั้งนี้จาตุรงค์ก็ได้เผยความรู้สึกว่าตนเองมีความกังวล เพราะกลัวทำศัลยกรรมแล้วจะเกิดแผลใหญ่มองเห็นชัด ดูแปลกตาไปจากเดิม นอกจากนี้ก็กลัวหน้าเปลี่ยนรูปด้วย แต่ผลลัพธ์ที่ได้มานั้นก็สมกับฝีมือหมอเกาหลีจริง ๆ เพราะสามารถทำให้ผิวหนังบริเวณคอที่เคยเหี่ยวย่นกลับมาเต่งตึงได้อีกครั้ง

ด้านแฟนคลับที่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของจาตุรงค์มาโดยตลอด ก็พากันเข้ามาคอมเมนต์ในอินสตาแกรมกันมากมาย เช่น “ชอบการดูแลตัวเองของลุงรงค์ค่ะ อายุมากขึ้นคนเราไม่จำเป็นต้องปล่อยเนื้อปล่อยตัว คือดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ” , “หล่อมากคร้า” , “สวยเหมือนหูเกิดใหม่เลยครับ” , “พี่รงค์พาผมไปทำบ้าง..55 อยากหล่อบ้างครับ” เป็นต้น

แม้ว่าปีนี้จาตุรงค์จะอายุย่างเข้าวัย 60 ปีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีความใส่ใจดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา ต่อไปนี้ใครจะมาล้อเรื่องคอเหี่ยวไม่ได้อีกแล้ว เพราะเขาคือ จาตุรงค์ คอตึงโพธาราม นั่นเอง.

ล่าสุด (15 ม.ค. 66) ทาง ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ ก็ได้มีการออกมาโพสต์ภาพคู่กับ แอนนา เสือ ผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ โดยเป็นภาพขณะที่นางงามรุ่นน้องที่มีโอกาสได้ไปพบปะพูดคุยกับนางงามจักรวาลคนที่ 2 ของประเทศไทย เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา พร้อมแนบแคปชั่นส่งกำลังใจ เผย ประทับใจชุดราตรีฝากระป๋องของ แอนนา เสือ มาก โดยระบุว่า

“คืนนี้เป็นคืนที่เราจะได้เฉลิมฉลองมิสยูนิเวิร์สคนที่ 71! ฉันมีโอกาสพบมิสไทยแลนด์ แอนนา เสืองามเอี่ยม เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ทันทีที่ได้พบฉันรู้สึกประทับใจในความสุขุมและความยืดหยุ่นของเธอ ฉันหวังว่าเธอจะได้บอกเล่าเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจของเธอบนเวทีโลก เกี่ยวกับการเป็นลูกสาวที่กตัญญูจากการเลี้ยงดูของเจ้าหน้าที่สุขาภิบาล และเรื่องราวของเธอเป็นดั่งแรงบันดาลใจในภารกิจการให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกกับคนทั่วโลกเกี่ยวกับขยะที่ไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้ เธอเริ่มต้นมันด้วยการสวมชุดราตรีที่ทำมาจากฝากระป๋องได้อย่างน่าประทับใจ! #โชคดี #missthailand #มิสยูนิเวิร์ส2565”

‘ดิว อริสรา’ กะเตง ‘น้องไซลาส’ ไปอยู่ไต้หวัน แอบหวั่นชีวิตในต่างแดน

ขยันแจกความหล่อในไทยไม่พอ “น้องไซลาส” ขอโบกมือลาบ้านเกิดไปอวดโฉมความหล่อกันต่อที่ไต้หวันกับคุณแม่ “ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์” และคุณพ่อ “เซบาสเตียน ลี” แม้ว่างานนี้จะทำให้สาวดิวแอบหวั่นใจไม่น้อย เนื่องจากเป็นการไปอยู่อาศัยในต่างแดนเป็นเวลานานถึง 2 เดือน แต่เพื่อน้องไซลาสแล้ว บอกเลยว่าสาวดิวขอสู้สุดใจ

เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 11 มกราคม 2566 ดิว อริสรา ได้ออกมาโพสต์แจ้งเรื่องการเดินทางย้ายไปอาศัยอยู่ที่บ้านของสามี เซบาสเตียน ลี ที่ไต้หวัน เป็นเวลา 2 เดือน แม้ว่าสาวดิวจะรู้สึกหวั่นใจเนื่องจากไม่มีเพื่อน และก็ไม่รู้ว่าจะเจอกับอนาคตแบบไหน แต่เพื่อความมั่นคงของน้องไซลาสเธอก็ยอมแลก ความว่า “ขอลงไว้เป็นความทรงจำให้เฟสบุ๊คมันเตือนในอนาคตนะ!

คืนนี้ก็คือ…อีกแค่ 1 คืน เท่านั้น วันพรุ่งนี้ก็จะได้ไปอยู่ นอน และตื่นมาในที่ที่ไม่เคยไป ไม่เคยใช้ชีวิต …

ซึ่งแน่นอนมันคงไม่เหมือนเวลาที่่เราไปเที่ยวนานๆ

และมันคงไม่มีที่ไหนสะดวกใจเท่าบ้านเรา ตอนนี้บอกเลยว่ามันก็เป็นความรู้สึกที่กังวลนิลๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง เพื่อนก็ไม่มี หลายสิ่งมาก! แต่.. สิ่งที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้น และมั่นใจที่จะไป บ้านหลังที่ 2 (ไต้หวัน) คือ เจ้าไซลาสน้อย! อะไรที่ดีสำหรับไซลาส ดิวจะทำให้หมด และก็ สามี ครอบครัวสามีที่ไต้หวัน ที่เค้ารอเราอยู่ที่นั่น เราก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึก welcome ของพวกเค้านะ และวันพรุ่งนี้ ไซลาสก็ครอบรอบ 5 เดือนเป๊ะ! พอดี ชีวิตมันก็คงถึงเวลาที่จะค่อยๆได้ปรับเปลี่ยนไปอีกแบบ แบบที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็น และ อาจจะเกินฝันว่าจะมี

ในชีวิตเรา อะไรที่ได้มาง่ายไม่เคยยั่งยืนและดีจริง และอะไรที่ได้มายากใช้เวลาส่วนใหญ่มักคุ้มค่าและมีคุณค่าเสมอ จน ณ วันนี้ ขอบคุณอะไรก็ตาม ที่ทำให้เราได้มีสามีที่น่ารัก มีลูกที่น่ารัก มีครอบครัวเราที่อบอุ่น และมากไปกว่านั้นมีครอบครัวสามีที่ให้เกรียติ เห็นคุณค่า และความสามารถในตัวเรา เสมอ และครอบครัวเค้าก็ครบพร้อม มีความอบอุ่นในแบบที่เราอาจจะไม่เคยมี🥹

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> สล็อตแตกง่าย แทงบอลออนไลน์